Saturday, 16 August 2025

[Book Review] จนศพสุดท้าย

จนศพสุดท้าย

Original Title: And Then There Were None
ผู้เขียน: Agatha Christie
ผู้แปล: ขีดขิน จินดาอนันต์


คน 8 คนได้รับเชิญไปยังคฤหาสน์บนเกาะร้างโดยผู้เชิญที่ใช้ชื่อต่างกัน เมื่อไปถึงก็พบกับสองสามีภรรยาผู้ได้รับว่าจ้างมาให้ดูแลความเรียบร้อยของคฤหาสน์ แต่จนแล้วจนรอดผู้เชิญก็ไม่ปรากฏตัว และแล้วในช่วงอาหารค่ำของวันแรกนั่นเอง ก็มีเสียงประกาศในห้องอาหารถึงความผิดที่แขกแต่ละคนเคยก่อไว้ในอดีต ตามด้วยการเสียชีวิตของแขกคนแรก

ผู้ได้รับเชิญพยายามเกาะกลุ่มกันและค้นหาไปทั่วเกาะแต่ก็ไม่พบตัวผู้ก่อเหตุ ระหว่างนั้นเหยื่อก็ทยอยเสียชีวิตไปทีละคนด้วยสาเหตุที่ใกล้เคียงกับเพลงกล่อมเด็กที่ว่าด้วยการตายของทหาร 10 นายที่แปะไว้ในห้องนอนแขก เรื่องน่าประหลาดอีกประการคือตุ๊กตาทหารในคฤหาสน์ที่เคยมี 10 ตัวเท่าจำนวนคนกลับหายไปทีละตัวทุกครั้งที่มีคนเสียชีวิต


ความสนุกของนิยายแนว whodunit มักอยู่ที่การสร้างปริศนาให้ผู้อ่านคิดตามว่าคนร้ายที่แท้จริงคือใคร ผลงานเล่มนี้ก็เช่นกัน ในช่วงแรก ผู้เขียนหว่านล้อมให้ผู้อ่านเข้าใจว่าคนร้ายน่าจะเป็นใครสักคนที่อยู่นอกกลุ่ม 10 คนที่ได้รับเชิญและถูกว่าจ้างมา เพราะขณะเกิดเหตุทั้ง 10 คนนั่งฟังเสียงประกาศด้วยกันอยู่ในห้องอาหาร แต่เมื่อค้นหารอบเกาะแล้วไม่พบว่ามีคนนอก ผู้ต้องสงสัยย่อมต้องเป็นคนทั้ง 10 บนเกาะนั่นเอง

เรื่องราวถูกเล่าผ่านมุมมองของตัวละครทั้ง 10 สลับกันไปเรื่อยๆ ทุกคนต่างสงสัยกันและกัน มีการหลอกล่อให้ผู้อ่านคิดไปทางนี้ทีทางนี้ทีก่อนจะเฉลยเรื่องราวทั้งหมดในบทสุดท้ายซึ่งเป็นการหักมุมที่ค่อนข้างคาดเดาได้ยาก ช่วงแรกที่เป็นการแนะนำตัวละครดำเนินเรื่องช้าเพราะมีตัวละครจำนวนมากปรากฏตัวติดต่อกันและต้องเกริ่นประวัติคร่าวๆ ของตัวละครแต่ละตัวให้ผู้อ่านจดจำได้ แต่การดำเนินเรื่องหลังจากที่ทั้ง 10 คนมาอยู่บนเกาะแล้วถือว่ากระชับฉับไวน่าติดตาม เหตุฆาตกรรมแต่ละครั้งเกิดขึ้นติดต่อกันโดยไม่มีช่วงที่น่าเบื่อเลย

อย่างไรก็ตาม จุดอ่อนประการแรกของเรื่องนี้คือการสร้างตัวละครที่ไม่ได้มีเสน่ห์น่าเอาใจช่วยนัก แม้จะได้อ่านเรื่องราวผ่านมุมมองของตัวละครเหล่านั้นก็ไม่รู้สึกลุ้นว่าตัวละครที่ชอบจะตายเป็นรายถัดไปหรือเขา/เธอคนนั้นจะเป็นฆาตกรเสียเอง แรงจูงใจของฆาตกรที่ทำตัวเป็นศาลเตี้ยก็ไม่ได้น่ายกย่องชมเชยอะไรนัก

จุดอ่อนอีกประการคือการวางแผนฆาตกรรมที่ค่อนข้างเหลือเชื่อและต้องใช้โชคช่วยอยู่หลายส่วน แม้ตัวละครที่เป็นคนร้ายจะชิงแก้ต่างให้ตัวเองว่าแผนที่วางไว้ไม่ได้รัดกุมอะไรมากมาย บางจุดก็อาศัยการคาดเดาพฤติกรรมมนุษย์ตามหลักจิตวิทยา (ซึ่งอาจเป็นไปตามนั้นหรือไม่ก็ได้) เหตุฆาตกรรมครั้งนี้เกิดขึ้นต่อเนื่องจนสำเร็จตามแผนเพราะบังเอิญว่าทุกอย่างลงล็อกตามการคาดเดาพอดี ความไม่สมเหตุสมผลนี้ทำให้อรรถรสในการอ่านลดลงไปพอสมควร

"จนศพสุดท้าย" เป็นนวนิยายที่โด่งดังเป็นอันดับต้นๆ ของอกาธา คริสตี้มายาวนานและมีอิทธิพลต่องานเขียนแนวสืบสวนสอบสวนเป็นอย่างมาก อาจกล่าวได้ว่าเป็นต้นแบบของโทรปการเกิดเหตุฆาตกรรมในสถานที่ปิดตายห่างไกลที่พบเห็นได้บ่อยครั้งในผลงานแนว whodunit ของนักเขียนยุคต่อๆ มา เมื่อพิจารณาว่าเป็นเรื่องราวที่เขียนขึ้นในปี 1939 ก็พอจะเข้าใจถึงข้อจำกัดที่ทำให้ผู้อ่านในยุคปัจจุบันมองเห็นถึงจุดอ่อนต่างๆ ดังที่กล่าวมา


Share:

0 comments:

Post a Comment