Thursday, 7 August 2025

[Book Review] อยากให้ภาพนี้ไม่มีคนตาย

อยากให้ภาพนี้ไม่มีคนตาย

Original Title: Hidden Pictures
ผู้เขียน: Jason Rekulak
ผู้แปล: ชญาธิป วีระขจร


มัลลอรี ควินน์ อดีตสาวติดยาผู้ได้รับการบำบัดจนหายดีได้งานใหม่เป็นพี่เลี้ยงเด็ก เธอย้ายเข้ามาอยู่กับครอบครัวแมกซ์เวลล์ในบ้านติดป่าทึบและมีหน้าที่ดูแลเด็กชายเท็ดดี้วัย 5 ขวบ เท็ดดี้เป็นเด็กธรรมดาเลี้ยงง่าย เรื่องกวนใจเพียงอย่างเดียวคือเขามักวาดรูปแปลกๆ ตามคำบอกเล่าของอันย่าซึ่งมัลลอรีเชื่อว่าเป็นเพื่อนในจินตนาการของเท็ดดี้

แต่แล้วภาพวาดของเท็ดดี้ก็เริ่มน่ากลัวขึ้น ลายเส้นเปลี่ยนไปจนไม่น่าเชื่อว่าเป็นฝีมือของเด็กวัย 5 ขวบ ภาพวาดเหล่านั้นบวกกับประวัติไม่ชอบมาพากลของบ้านหลังนี้ทำให้มัลลอรีสันนิษฐานว่าเนื้อหาในภาพวาดอาจเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมในอดีต เธอจึงเริ่มสืบหาความจริงอย่างลับๆ แม้จะถูกเท็ดและแคโรไลน์ซึ่งเป็นพ่อแม่ของเท็ดดี้คอยห้ามปราม


งานเขียนเรื่องนี้มีลักษณะแบบนิยายโกธิค กล่าวคือตัวเอกเป็นหญิงสาวตัวคนเดียวผู้มีความเปราะบาง ย้ายเข้ามาอยู่ในสภาพแวดล้อมใหม่ที่กึ่งๆ จะถูกตัดขาดจากโลกภายนอก (ในเรื่องนี้คือคฤหาสน์ในหมู่บ้านเล็กๆ ที่รายล้อมด้วยป่าทึบ) และอยู่ในสถานะที่ไม่มีสิทธิ์มีเสียงอะไรนักกับเจ้าของบ้าน แต่เธอคนนั้นต้องเข้ามาพัวพันกับเรื่องลึกลับบางอย่างที่มักจะเกี่ยวข้องกับตัวเจ้าของบ้านเอง เซ็ตติ้งของเรื่องนี้เป็นยุคปัจจุบัน แต่องค์ประกอบที่ได้กล่าวมาก็สร้างบรรยากาศชวนขนลุกขนพองไม่ต่างจากนิยายโกธิคยุคเก่า เสริมความหลอนด้วยภาพประกอบที่โผล่มาตลอดเรื่อง

คฤหาสน์กลางป่าที่มีประวัติน่าสงสัย ภาพวาดปริศนา คดีฆาตกรรม เจ้าของบ้านและเพื่อนบ้านนิสัยแปลกพิลึก สิ่งเหล่านี้อาจไกลตัวผู้อ่าน แต่เรื่องราวทั้งหมดถูกเล่าได้อย่างน่าติดตามผ่านมุมมองของมัลลอรีบนเส้นเรื่องเรียบง่ายเรียงลำดับเหตุการณ์ตามช่วงเวลา

มัลลอรีเป็นตัวละครที่น่าสนใจ เธอเคยเป็นนักกีฬาดาวรุ่งระดับมัธยมก่อนจะเกิดอุบัติเหตุจนกลายเป็นผู้ป่วยติดยาแก้ปวด ในแง่หนึ่งก็สะท้อนปัญหายาเสพติดจากระบบยาที่ดูเหมือนจะยังเรื้อรังในอเมริกา เรื่องราวของมัลลอรีแสดงให้เห็นว่าคนทั่วไปที่ไม่ได้คิดจะเข้าไปข้องแวะกับยาเสพติดก็อาจมีช่วงที่สภาพจิตใจอ่อนแอจนสิ่งเหล่านี้เข้ามาครอบงำชีวิต

แต่แง่มุมที่ดีคือสังคมยังคงให้โอกาสคนที่เคยเดินพลาด มัลลอรีบำบัดอาการติดยาจนสำเร็จ มีคนที่เชื่อใจและคอยซัพพอร์ทให้เธอกลับมาเดินในเส้นทางที่ถูกต้อง ซึ่งอาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เธอเชื่อใจเด็กน้อยที่ไม่สามารถปกป้องตัวเองได้อย่างเท็ดดี้และพยายามช่วยเหลือเขาเมื่อเห็นว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากล

การที่ผู้อ่านมีข้อมูลที่รู้และไม่รู้เท่าๆ กับผู้บรรยายช่วยเพิ่มความน่าตื่นเต้นเหมือนได้สวมบทบาทเป็นตัวเอกของเรื่องและพบเจอเหตุการณ์ต่างๆ เหล่านั้นด้วยตัวเอง แต่ขณะเดียวกันความคิดเห็นจากตัวละครรอบข้างอย่างเท็ดและแคโรไลน์ที่มีต่อมัลลอรีว่าเธอเพิ่งผ่านการบำบัดและยังมีอาการหลงๆ ลืมๆ ก็ทำให้ผู้อ่านเกิดความสงสัยไปพร้อมกันว่ามัลลอรีมีลักษณะเป็น unreliable narrator หรือไม่ สิ่งที่เธอรับรู้และบรรยายออกมาน่าเชื่อถือแค่ไหน หรือมัลลอรีถูก gaslight จากคนที่รู้ความจริงอย่างเท็ดและแคโรไลน์กันแน่

จุดเด่นที่ทำให้งานเขียนเรื่องนี้น่าติดตามคือการดำเนินเรื่องที่กระชับ ใช้ตัวละครไม่มาก ไม่มีการบรรยายเยิ่นเย้อในจุดที่ไม่จำเป็นแต่ขณะเดียวกันก็บรรยายรายละเอียดในจุดที่ชวนขนลุกได้ดี ปริศนาถูกหย่อนเข้ามาในเรื่องอย่างรวดเร็วและต่อเนื่องผ่านภาพวาดที่เท็ดดี้วาดออกมาเรื่อยๆ และมัลลอรีก็พยายามหาคำตอบของปริศนาเหล่านั้นไปทีละนิดจนสามารถนำข้อมูลทั้งหมดมาปะติดปะต่อเป็นภาพใหญ่ได้ในท้ายที่สุด

แม้โดยส่วนตัวจะไม่ค่อยพอใจคำตอบของปริศนาที่ว่า "อันย่าเป็นใคร" เพราะรู้สึกว่าเป็นคำตอบที่ออกจะกำปั้นทุบดินเกินไปสักหน่อย แต่ตัวตนที่แท้จริงของอันย่าก็นำไปสู่บทสรุปที่สวยงามทั้งในส่วนของเท็ดดี้และในส่วนของมัลลอรีเอง ปมปริศนาที่วางไว้ได้รับการคลี่คลายอย่างหมดจดไม่มีประเด็นค้างคาใจ เป็นนิยายลึกลับระทึกขวัญที่บอกเราว่าความหวังที่เรามอบให้ใครสักคนอาจเป็นแสงสว่างที่จะถูกส่งต่อไปยังคนอื่นๆ เพื่อนำพาคนที่ยังตกอยู่ในความมืดมนให้กลับสู่แสงสว่างอีกครั้ง


Share:

0 comments:

Post a Comment